Bann Sai 7
Location: พุทธมณฑลสาย 7 ต.ทรงคนอง อ.เมือง จ.นครปฐม
Area: 352 Sq.m.
Scope of work: Architectural Design
Contractor: BM Construction and Design Co.,Ltd.
Photographer: Yossapon Poonwattana
Process: Completed
เจ้าของบ้านได้เล่าถึงความต้องการบ้านพักหลังวัยเกษียณ มีพื้นที่สำหรับสอนทำอาหารเล็กๆสำหรับลูกสาว มีที่ให้หลานๆวิ่งเล่น และสวนผลไม้ จากการเข้าไปสำรวจพื้นที่พบว่า เป็นที่ดินโล่ง มีรั้วล้อมรอบทุกด้านและมีประตูทางเข้าชิดขอบที่ดิน บรรยากาศโดยรอบที่ดินเป็นสวนผลไม้ สวนต้นหมาก สวนมะนาว
การเข้าถึงโครงการเราตั้งใจที่จะใช้ทางเข้าเดิม แล้ววางอาคารให้ชิดที่ดินฝั่งที่ติดกับสวนหมาก เพื่อให้มุมมองแรกที่เข้ามาจะเจอกับสวนผลไม้ในบ้านก่อนเข้าถึงตัวอาคารที่มีภาพพื้นหลังของทิวสวนหมากที่มีความสูงแตกต่างกัน โดยการจัดให้พื้นที่สำหรับปลูกผลไม้อยู่หน้าประตูรั้วนี้เพื่อเผื่อพื้นที่ให้มีสิ่งปลูกสร้างเพิ่มเติมในอนาคตด้วย
เนื่องจากอาคารนี้จะมีส่วนสำหรับแขกที่มาเรียนทำอาหาร(Semi Private) และพื้นที่ส่วนของเจ้าของบ้าน (Private) เราจึงแยกทางเดินเข้าสู่ภายในอาคารเป็น 2 แบบ คือ แบบบันได และแบบทางลาด เพื่อไม่ให้เสียความเป็นส่วนตัวของเจ้าของบ้าน ลักษณะของอาคารจึงแบ่งเป็นพื้นที่ 2 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 พื้นที่สำหรับสอนทำอาหาร (Workshop Zone) จะเป็นจุดนำสายตาของผู้มาเยือน อาคารส่วนนี้จะมีความโดดเด่นกว่าส่วนอื่นเล็กน้อย โดยการให้ตัวอาคารยื่น (Cantilever) ลอยออกจากตัวผนังรับน้ำหนัก( Bearing Wall) และหลังคาซ้อน2ชั้น ยกสูงเป็นช่องคอสองให้รับแสง (Indirect Light) เข้ามายังห้องสอนทำอาหาร เพื่อให้พื้นที่ภายในสว่างทั้วทั้งห้อง
ส่วนที่ 2 พื้นที่สำหรับครอบครัว (Family Zone) ใช้ชานเป็นตัวเชื่อมระหว่างอาคาร เว้นคอร์ดไว้ตรงกลาง(Courtyard) พื้นที่คอรฺ์ดจัดให้มีทางลาดและระดับลดหลั่นเป็นขั้นบันไดต่างกัน เพื่อให้เกิดการใช้พื้นที่เสริมสร้างจินตนาการของเด็ก สามารถวิ่งเล่น นั่งเล่น ทำกิจกรรมภายนอกได้ สร้างมุมมองทัศนียภาพเข้าหาสวนผลไม้ เปิดพื้นที่ตรงอาคารกลางให้กว้าง โดยใช้ช่องเปิดเป็นบานเฟี้ยมเพื่อระบายอากาศ ลดความร้อนของอาคาร ขณะที่เปิดบานเฟี้ยมจะมองทะลุออกไปเห็นวิวสวนหมากด้านหลังบ้าน เป็นการเชื่อมพื้นที่ระหว่างภายในบ้านและชานให้ดูกว้างขึ้น เพิ่มพื้นที่กิจกรรมสำหรับครอบครัว
การเข้าถึงโครงการเราตั้งใจที่จะใช้ทางเข้าเดิม แล้ววางอาคารให้ชิดที่ดินฝั่งที่ติดกับสวนหมาก เพื่อให้มุมมองแรกที่เข้ามาจะเจอกับสวนผลไม้ในบ้านก่อนเข้าถึงตัวอาคารที่มีภาพพื้นหลังของทิวสวนหมากที่มีความสูงแตกต่างกัน โดยการจัดให้พื้นที่สำหรับปลูกผลไม้อยู่หน้าประตูรั้วนี้เพื่อเผื่อพื้นที่ให้มีสิ่งปลูกสร้างเพิ่มเติมในอนาคตด้วย
เนื่องจากอาคารนี้จะมีส่วนสำหรับแขกที่มาเรียนทำอาหาร(Semi Private) และพื้นที่ส่วนของเจ้าของบ้าน (Private) เราจึงแยกทางเดินเข้าสู่ภายในอาคารเป็น 2 แบบ คือ แบบบันได และแบบทางลาด เพื่อไม่ให้เสียความเป็นส่วนตัวของเจ้าของบ้าน ลักษณะของอาคารจึงแบ่งเป็นพื้นที่ 2 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 พื้นที่สำหรับสอนทำอาหาร (Workshop Zone) จะเป็นจุดนำสายตาของผู้มาเยือน อาคารส่วนนี้จะมีความโดดเด่นกว่าส่วนอื่นเล็กน้อย โดยการให้ตัวอาคารยื่น (Cantilever) ลอยออกจากตัวผนังรับน้ำหนัก( Bearing Wall) และหลังคาซ้อน2ชั้น ยกสูงเป็นช่องคอสองให้รับแสง (Indirect Light) เข้ามายังห้องสอนทำอาหาร เพื่อให้พื้นที่ภายในสว่างทั้วทั้งห้อง
ส่วนที่ 2 พื้นที่สำหรับครอบครัว (Family Zone) ใช้ชานเป็นตัวเชื่อมระหว่างอาคาร เว้นคอร์ดไว้ตรงกลาง(Courtyard) พื้นที่คอรฺ์ดจัดให้มีทางลาดและระดับลดหลั่นเป็นขั้นบันไดต่างกัน เพื่อให้เกิดการใช้พื้นที่เสริมสร้างจินตนาการของเด็ก สามารถวิ่งเล่น นั่งเล่น ทำกิจกรรมภายนอกได้ สร้างมุมมองทัศนียภาพเข้าหาสวนผลไม้ เปิดพื้นที่ตรงอาคารกลางให้กว้าง โดยใช้ช่องเปิดเป็นบานเฟี้ยมเพื่อระบายอากาศ ลดความร้อนของอาคาร ขณะที่เปิดบานเฟี้ยมจะมองทะลุออกไปเห็นวิวสวนหมากด้านหลังบ้าน เป็นการเชื่อมพื้นที่ระหว่างภายในบ้านและชานให้ดูกว้างขึ้น เพิ่มพื้นที่กิจกรรมสำหรับครอบครัว
